ปัจจุบันการมีหุ่นที่ผอมเพรียว ได้รูป เป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝัน แต่กว่าที่จะได้รูปร่างแบบนั้นได้ ก็ต้องฝ่าฝันกับอุปสรรคทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายสำหรับคนที่ไม่เคยคิดที่จะเล่นกีฬา การทานผัก ผลไม้ให้มากกว่าขนมจุบจิบ หรือแม้แต่การรับประทานยาลดความอ้วน ซึ่งเป็นวิธีที่ที่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นวิธีทีทำให้รูปร่างของคุณกลับมาอ้วนอย่างเก่าได้ง่ายที่สุด เมื่อรู้ว่าการรับประทานยาลดความอ้วน มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย หลายคนจึงหาทางออกโดยมองหาสมุนไพรตามธรรมชาติมาใช้ในการลดความอ้วน สารสกัดจากพริกจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นำมาใช้ ดังนั้นจึงเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยว่าสารสกัดจากพริก ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ จากการศึกษาพบว่า Capsaicin เป็นสารในพริกที่ให้รสเผ็ดร้อน ดังนั้นจึงมีผู้นำพริก หรือสารสกัดจากพริกมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก โดยมักจะกล่าวอ้างว่า Capsaicin ในพริกช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารและลดความอยากอาหาร จากการศึกษาในคนพบว่า อาหารรสเผ็ดที่มี Capsaicin อาจช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้ประมาณ 200 กิโลแคลอรี่ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าการรับประทานอาหารรสเผ็ดไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการใช้ออกซิเจน การใช้ไขมันของร่างกาย หรืออุณหภูมิของร่างกาย และยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการสนับสนุนการใช้ Capsaisin เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะมีผลเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้ และทางการแพทย์ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนอีกด้วย ดังนั้นผู้บริโภคควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือบริโภค และขอบอกว่าการลดความอ้วนที่ดีที่สุด และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย คือ การรับประทานผัก ผลไม้ให้มาก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และที่สำคัญขับถ่ายให้เป็นเวลา เท่านี้คุณก็ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนแต่อย่างใด
วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
พริก..ไม่ได้ช่วยลดความอ้วน
ปัจจุบันการมีหุ่นที่ผอมเพรียว ได้รูป เป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝัน แต่กว่าที่จะได้รูปร่างแบบนั้นได้ ก็ต้องฝ่าฝันกับอุปสรรคทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายสำหรับคนที่ไม่เคยคิดที่จะเล่นกีฬา การทานผัก ผลไม้ให้มากกว่าขนมจุบจิบ หรือแม้แต่การรับประทานยาลดความอ้วน ซึ่งเป็นวิธีที่ที่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นวิธีทีทำให้รูปร่างของคุณกลับมาอ้วนอย่างเก่าได้ง่ายที่สุด เมื่อรู้ว่าการรับประทานยาลดความอ้วน มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย หลายคนจึงหาทางออกโดยมองหาสมุนไพรตามธรรมชาติมาใช้ในการลดความอ้วน สารสกัดจากพริกจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นำมาใช้ ดังนั้นจึงเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยว่าสารสกัดจากพริก ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ จากการศึกษาพบว่า Capsaicin เป็นสารในพริกที่ให้รสเผ็ดร้อน ดังนั้นจึงมีผู้นำพริก หรือสารสกัดจากพริกมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก โดยมักจะกล่าวอ้างว่า Capsaicin ในพริกช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารและลดความอยากอาหาร จากการศึกษาในคนพบว่า อาหารรสเผ็ดที่มี Capsaicin อาจช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้ประมาณ 200 กิโลแคลอรี่ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าการรับประทานอาหารรสเผ็ดไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการใช้ออกซิเจน การใช้ไขมันของร่างกาย หรืออุณหภูมิของร่างกาย และยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการสนับสนุนการใช้ Capsaisin เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะมีผลเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้ และทางการแพทย์ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนอีกด้วย ดังนั้นผู้บริโภคควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือบริโภค และขอบอกว่าการลดความอ้วนที่ดีที่สุด และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย คือ การรับประทานผัก ผลไม้ให้มาก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และที่สำคัญขับถ่ายให้เป็นเวลา เท่านี้คุณก็ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนแต่อย่างใด
กินอาหารเผื่อแผ่ผิวพรรณ
แล้วคุณทราบหรือไม่ว่า อาหารชนิดเดียวกัน คนหนึ่งกินแล้วสวยสดใสแต่มันกลับทำร้ายผิวพรรณของอีกคนหนึ่ง เหมือน ๆ กับที่เครื่องสำอาง สบู่ โฟมบางชนิดคนหนึ่งใช้ได้ใช้ดี อีกคนแตะเมื่อไหร่เป็นสิวเห่อนั่นแหละ
ทีนี้เรามาสำรวจอาหารที่จะช่วยเผื่อแผ่ผิวพรรณของคุณเมื่อรับประทานเข้าไปดีกว่า เพราะแค่ทามอยเจอร์ไรเซอร์ราคาแพงอย่างเดียวน่ะ ไม่เพียงพอต่อการที่จะทำให้ผิวพรรณของคุณสวยสดใสหรอกนะ
สาวผิวแห้ง
สาวผิวมัน
สาวผิวแพ้ง่าย
ผิวที่โดดแดดเผา
ข้อมูลจาก : http://www.thaihealth.info/nutrition64.asp
โยเกิร์ตกับสุขภาพ
ศูนย์วิจัยเนสท์เล่รายงานสรุปผลงานวิจัยของออสการ์ อะดอฟซัน ซิมิน นิคบิน เมดานิ และ โรเบิร์ต เอ็ม รัสเซล ที่ตีพิมพ์ในวารสารโภชนคลินิกของอเมริกันเมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า มีการศึกษาวิจัยจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แสดงให้เห็นถึงผลดีต่อสุขภาพของ การรับประทานโยเกิร์ตและเชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ในการผลิตโยเกิร์ต ช่วยป้องโรคระบบทางเดินอาหารได้
ไม่ว่าจะเป็นอาการเล็กๆ น้อยๆ อย่างอาการท้องผูก ท้องร่วง ไปจนถึงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคที่เกิดการอักเสบในช่องท้อง โรคติดเชื้อจากแบคทีเรียชื่อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร และโรคภูมิแพ้ต่างๆ ผลการทดลองนี้ได้แสดงให้เห็นผลทั้งในคนและสัตว์ทดลอง ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการจากโรคระบบทางเดินอาหารเหล่านี้ จะมีอาการดีขึ้นหลังจากการรับประทานโยเกิร์ต
ซึ่งโยเกิร์ตและเชื้อจุลินทรีย์ในกลุ่มของแลคติคแอซซิดแบคทีเรีย สายพันธุ์ของแลคโตบาซิลลัสและสเตร็ปโตคอกคัส จะมีผลโดยตรงต่อเชื้อจุลินทรีย์ในระบบลำไส้ ช่วงระยะเวลาที่อาหารอยู่ในลำไส้ การขยายตัวของเซลล์ในระบบทางเดินอาหาร และการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าผลการศึกษาวิจัยนี้แสดงให้เห็นผลดีของการรับประทานโยเกิร์ต
แต่ผลการศึกษาในบางครั้งก็ให้ผลที่แตกต่างกัน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากความแตกต่างของสายพันธุ์ของแบคทีเรียที่ใช้ หรือวิธีการให้โยเกริ์ต และขั้นตอนการตรวจสอบ ซึ่งจะต้องทำการทดลองเพื่อยืนยันผลจากการศึกษาต่อไป
อย. แนะการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
อย. เผยได้กำหนดปริมาณโซเดียมที่คนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปควรได้รับ ต้องไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน
ดังนั้น การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขอให้ผู้บริโภคดูสูตรส่วนประกอบที่แสดงข้อมูลปริมาณเกลือและผงชูรส
หรือถ้ามีฉลากโภชนาการ ขอให้อ่านโดยละเอียด หากพบอาหารชนิดใดมีโซเดียมสูง ขอให้ใช้วิจารณญาณในการเลือกบริโภค
เพื่อมิให้ได้รับเกินจากที่กำหนด ทั้งนี้เพราะอาหารกึ่งสำเร็จรูปบางประเภทอาจมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละวันด้วย
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่มีข่าว
จากหน้าหนังสือพิมพ์ถึงการสำรวจปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของวารสารฉลาดซื้อของมูลนิธิ
เพื่อผู้บริโภค พบว่า มีโซเดียมสูงถึง 50-100% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
จึงต้องการให้คนไทยบริโภคอย่างระมัดระวัง นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหาร
ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปที่จำหน่ายออกสู่ท้องตลาด จึงขอชี้แจงให้ ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในการบริโภคอาหารกึ่งสำเร็จรูป โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่คนไทยทุกวัยนิยมบริโภค ว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจัดเป็นอาหารกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน
โดยมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เช่น ต้องไม่มีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค สารเป็นพิษ
และมีข้อกำหนดด้านโภชนาการคือ ต้องมีโปรตีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 8.5 ของน้ำหนัก
นอกจากนี้ องค์ประกอบในบะหมี่ ยังมีแป้ง น้ำมัน/ไขมัน และเครื่องปรุงรส ซึ่งมีเกลือโซเดียม
รวมทั้งผงชูรสอยู่ในซองอีกด้วย ทั้งนี้ อย. ได้กำหนดปริมาณโซเดียมที่คนไทยอายุตั้งแต่ 6 ขึ้นไปควรได้รับ
ไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสอดคล้องกับค่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนด
สำหรับการแสดงข้อมูลโภชนาการบนฉลากอาหารด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า
ผลิตภัณฑ์มาม่า 1 ซอง หนัก 55-60 กรัม มีโซเดียม 1,480 -1,500 มิลลิกรัม
ผลิตภัณฑ์ไวไว หนัก 60 กรัม มีโซเดียม 1,030 มิลลิกรัม
เพิ่มเติม
http://www.thaihealth.info/nutrition67.asp
7 สุดยอดชนิดอาหารสำหรับผู้หญิง
กะหล่ำ หรือที่รู้จักกันว่าเป็นผักต้านมะเร็ง ซึ่งนอกจากต้านมะเร็งแล้ว สารอาหารในกะหล่ำยังมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเซลล์ภายในร่างกายอีกด้วย ที่สำคัญผักกะหล่ำสามารถให้ผู้หญิงนำไปทำได้หลายเมนูไม่มีเบื่อ
อาหารทั้ง 7 อย่างเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของอาหารอีกหลากชนิดที่มีให้เราเลือกทาน แต่ก็นับว่าเป็นอาหารสำคัญสำหรับผู้หญิงในการดูแลสุขภาพตัวเอง ดังนั้นการบริโภคของที่มีประโยชน์บ้างก็จะดีมาก แล้วก็ตามใจปากตัวเองให้น้อยลงสักหน่อย เท่านี้คำว่า สวยสุขภาพดี จะไปไหนเสีย
หุ่นดีด้วยถั่ว
น้ำชา...ชูกำลัง
My favourite
ชอบ : คนจริงใจ
สีที่โปรดปราณ : เขียว ขาว ดำ
ดาราที่ชื่นชอบ : ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง , ธนา สุทธิกมล
สัตว์เลี้ยงที่ชอบ : สุนัข
ของขวัญชิ้นโปรด : อะไรก็ได้ที่ได้จากคนที่เราชอบ
ดนตรี : ขอให้ฟังแล้วเพราะก็พอแล้ว
กีฬา : แบดมินตัน, กอล์ฟ (เรียนเทอมที่แล้วสนุกดี )
เมนูเด็ดส่วนตัว : ข้าวไข่เจียว
สถานที่ท่องเทียวที่ชื่นชอบ : ภูเขา ,น้ำตก
วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
งานอดิเรก
ฟังเพลง เพราะเวลาที่ได้ฟังเพลงที่ฉันชอบทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย
ดูโทรทัศน์ เพราะเวลาที่อยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนคุย
นอน เพราะคนเราเมื่อเรียนมาหนักๆแล้วก็ต้องมีการพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะคะ
(ดูเหมือนว่างานอดิเรกที่กล่าวมาจะไม่ค่อยได้ประโยชน์เท่าไหร่)
อ่านหนังสือ เพราะการอ่านหนัสือสามารถทำให้เรารู้จักโลกกว้างขึ้นได้
ปลูกต้นไม้ เป็นงานอดิเรกที่ฉันชอบมากที่สุดเพราะเวลาที่ฉันได้ปลูกต้นไม้หรือเวลาที่ได้รดน้ำ
พรวนดิน ทำให้ฉันสบายใจลืมเรื่องที่เครียดๆ ไปได้ ทำให้รู้สึกสบายใจ และมีความสุข
เวลาที่เห็นต้นไม้แล้วรู้สึกสดชื่น ถ้าเป็นต้นไม้ที่เราปลูกเราก็จะยิ่งภูมิใจว่าเราสามารถดูแลมันให้
เติบโตและสวยงามได้
สมุนไพรไทย ใครว่าธรรมดา ภาค3
ภาพประกอบจาก : siamensis.org
มากไปกว่านั้น ส่วนอื่นๆของต้นพลับพลึงยังสามารถรักษาโรคอื่นๆได้อีกเช่น เมล็ดสามารถขับเลือดประจำเดือนให้ออกมาให้หมดได้ด้วย และ รากสามารถนำมาตำแล้วพอกแผลก็ได้ด้วยค่ะ และยังมีสรรพคุณอีกมากมายนานัปการค่ะ
มาถึงสมุนไพรตัวที่ 2 ที่จะกล่าวถึงในคราวนี้นะคะ คือ กะเพรา ค่ะ กะเพราที่เรานำมาทำอาหารเนี่ยแหล่ะคะ พื้นๆเลย ก็ช่วยเรื่องขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด นอกไปจากนั้น กะเพรายังช่วยแก้ปวดท้อง และควบคุมธาตุต่างๆ ระบบการย่อยอาหาร ระบบทางเดินอาหารให้ทำงานดี และเมื่อนำมาใส่แกงเลียงก็จะช่วยคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกเรียกน้ำนมได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วยค่ะ
ภาพประกอบจาก : fm100cmu.com
ถ้าเอามาใช้รักษาโรคหรือบำรุงภายนอก ก็จะเป็นได้ทั้งยารักษากลากเกลื้อน แก้ลมพิษ แมลงสัตว์กัดต่อย โดยการรักษาที่กล่าวมาทำได้โดยการเอากะเพรามา 1 กำมือ ตำให้แหลกแล้วผสมกับเหล้าขาว แล้วทาไปยังจุดที่เป็น ถ้าเป็นหูดก็เอาใบกะเพราถูไปที่หูดโดยตรงได้เลยค่ะแล้วหูดก็จะฝ่อหายไปเองค่ะ
และใบกะเพรายังสามารถนำมาไล่แมลงได้ด้วยนะคะ โดยน้ำมันที่สกัดมาจากใบกะเพราสามารถไล่แมลงวันทอง และไล่ยุงได้ค่ะ
สมุนไพรชนิดที่ 3 ที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือ ตะไคร้ ค่ะ แน่นอนว่าตะไคร้เป็นสมุนไพรอันดับต้นๆที่นำมาประกอบอาหารรับประทานง่ายมาก ทั้งยำตะไคร้ น้ำตะไคร้ ต้มยำ ฯลฯ
ภาพประกอบจาก : fm100cmu.com
ในส่วนของลำต้นนั้นสามารถใช้เป็นยารักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะและแก้อหิวาตกโรค หรือทำเป็นยาทานวดก็ได้ และยังบำรุงธาตุให้เจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อเมื่อทานประกอบกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ
ส่วนของหัวใช้เป็นยารักษาเกลื้อน แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปัสสาวะพิการ แก้นิ่ว บำรุงไฟธาตุ ถ้าใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะเป็นยาแก้อาเจียน แก้ทราง ยานอนหลับลดความดันสูง แก้ลมอัมพาต แก้กษัยเส้น และแก้ลมใบ ใบสด ๆ จะช่วยลดความดันโลหิตสูง แก้ไข้ และอีกมากมายค่ะ ส่วนรากใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ ปวดท้องและท้องเสีย
ภาพประกอบจาก : Thaifoodtoworld.com
มากไปกว่านั้น ตะไคร้ยังมีสรรพคุณดับคาว ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่คนใต้จะต้มปลาเพื่อเอาเนื้อปลามาทำน้ำยาขนมจีน ก็มักจะต้มปลาแดงกับตะไคร้เพื่อดับกลิ่นคาวปลา หรือใส่ตะไคร้ในเครื่องแกงต่างๆเพื่อดับคาวเนื้อสัตว์ทั้งหลายที่ใส่ในแกง
และสมุนไพรชนิดสุดท้ายที่อยู่ในคลิปวิดีโอก็ได้แก่เจ้า กิ่งข่อย นั่นเองค่ะ หลายๆท่านคงทราบกันดีอยู่ว่า เจ้ากิ่งข่อยใช้ในการแปรงฟันแทนแปรงสีฟันได้(แต่ต้องทุบให้นิ่มๆก่อนนะคะ ไม่ใช่ใช้ทั้งแข็งๆ ไม่งั้นจะหาว่าสวยไม่เตือนไม่ได้นะคะ อิอิ) เปลือกสามารถรักษาแผล แก้ท้องร่วง ดับพิษภายใน และเมื่อต้มกับเกลือจะได้เป็นยาอมแก้รำมะนาด
ภาพประกอบจาก : gotoknow.org
ส่วนของรากสามารถนำมารักษาแผลได้ ตัวเนื้อไม้สามารถนำมามวนยาสูบได้ ตัวเมล็ดก็นำมารับประทานเป็นยาอายุวัฒนะได้ ทำให้เจริญอาหารด้วยค่ะ
และแล้วก็มาถึงตอนจบจนได้ อิอิ กลัวใจตัวเองจริงๆว่าจะต่อออกไปอีกหลายตอน แต่สุดท้ายก็ครบถ้วนกระบวนความตามในคลิปนะคะ ^____^ หวังว่าทุกๆท่านจะมีความสุขกับการชมคลิปโฆษณาน่ารักๆ และความรู้ที่ HealthyMania มานำเสนอนะคะ ยังไงก็ติชมกันเข้ามาได้นะคะ และถ้าข้อมูลตกหล่นตรงไหน ก็สามารถเขียน comment เข้ามาคุยกันได้นะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
อาหารตามกรุ๊ปเลือด
แนะวิธีดูแลสุขภาพ ของสาวออฟฟิศ
นายแพทย์ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเพื่อสุขภาพ แอ๊บโซลูทเฮลท์ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ผู้คนต้องทำงานหนักเพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่มีเวลาสำหรับความสบายใจ ความเครียดส่งผลกระทบรุนแรงมาก ทำให้เกิดโรคหลากหลายประการ นอกจากนี้ยังเกิดจากโลหะหนักที่มาจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ จากการตรวจสอบพบว่า ปลาทะเลส่วนใหญ่มีโลหะหนักจากโรงงานที่ปล่อยสารพิษลงทะเลและแม่น้ำ ขณะเดียวกันพืชผักมียาฆ่าแมลง ทั้งโลหะหนัก สารเคมี และความเครียด มักจะเข้าไปทำลายหลอดเลือดและส่งผลถึงระดับเซลล์ในร่างกายของเรา”
” คนส่วนใหญ่มักจะรู้ถึงสาเหตุของการเกิดโรค แต่มักจะละเลย ทำให้เป็นโรคร้ายต่างๆ สิ่งสำคัญคือต้องพยายามลดทอนความเครียดในบ้านในที่ทำงานลง พยายามหลีกเลี่ยงตัวแปรที่ทำให้เกิดโรค คนไทยดื่มเหล้าเป็นอันดับ 2 ของโลก อย่างนี้โรคหัวใจมาแน่ บุหรี่ก็สูบกันหนัก เครียดก็ออกไปเที่ยว สูบบุหรี่และดื่มเหล้า เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหนักเข้าไปอีก อาหารการกินวิตามินไม่เพียงพอ เราต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ ต้องหันมาดูแลร่างกายและจิตใจให้ผ่องใส สร้างบรรยากาศที่ดีในที่ทำงานและที่บ้าน ก็จะทำให้เราสุขภาพจิตดีขึ้น”
3. อยากได้แรงก็ต้องออกแรง อยากได้สุขภาพดีก็ต้องออกกำลังกาย หลักของ Action : Reaction คือออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ตื่นเช้าตั้งนาฬิกาปลุกตื่นก่อนเวลา 30 นาที ซิตอัพหรือวิดพื้นวันละ 100 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
4. นั่งสมาธิหรือสวดมนต์เช้า 30 นาที ทำไปสักระยะ จิตจะนิ่ง ความเครียดจะหาย สารความเครียดละลาย สุดท้ายก็ไม่เป็นมะเร็ง การที่จิตไม่นิ่ง ฟุ้งซ่าน คิดมาก เรื่องเยอะ ก่อให้เกิดโรคร้ายหลายอย่าง
5. ปรับสมดุลแก่ร่างกาย ต้องไปหาแพทย์เพื่อตรวจดูว่าฮอร์โมนสมดุลหรือเปล่า ปัจจุบันมีทางเลือกในการตรวจรักษาหลายแนวทาง แพทย์แนวธรรมชาติบำบัด จะใช้สารธรรมชาติหลายอย่าง เช่น วิตามิน,อาหารเสริม,ฮอร์โมน จะดูว่าร่างกายสมดุลไหม,มีการใช้พืชสมุนไพรเพื่อลดผลข้างเคียง,ตรวจเอนไซม์ ในร่างกาย เป็นต้น
ผมร่วง สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
อันดับแรก คงต้องดูว่าเส้นผมของคุณตกอยู่ในภาวะอันตรายหรือเปล่า ซึ่งสังเกตได้จากเส้นผมที่หลุดออกมา โดยแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ เส้นผมที่หลุดออกมาแล้วไม่มีรากผมติดอยู่นั้นถือว่ายังไม่อ่อนแอมาก อาจเกิดจากการหลุดร่วงตามธรรมชาติ หากไม่เกิน 100 เส้นต่อวัน ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ สาเหตุหลักเกิดจากเส้นผมสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง การดัด การย้อม การใช้แชมพูที่ไม่เหมาะกับสภาพเส้นผม รวมถึงความร้อนจากแสงแดดการหวีผมหรือแปรงผมบ่อยจนเกินไป เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เส้นผมอ่อนแอ เปราะบาง หลุดร่วงจากหนังศีรษะ
แต่หากเส้นผมที่หลุดออกมาแล้วมีตุ่มที่โคนผมแสดงว่ารากผมอ่อนแอ หนังศีรษะมีปัญหา สาเหตุหลักเกิดจากปัญหาทางร่างกาย ความเครียด การเจ็บป่วยหรือการใช้ยาบางชนิดที่ฤทธิ์กระตุ้นให้เส้นผมหลุดร่วงซึ่งหากได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ความเครียดลดลงร่างกายแข็งแรงขึ้น รากผมและหนังศีรษะก็จะแข็งแรงขึ้นตามลำดับ ภายใน 2-3 เดือน เส้นผมก็จะงอกขึ้นมาใหม่ตามปกติ
เคล็ดลับป้องกันผมร่วง กำมะถันช่วยได้
กำมะถันเป็นแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติเป็นกรด มีมากในไข่ ปลา อาหารทะเล เนยแข็ง นม และพืชผักที่ปลูกในพื้นดิน สารอาหารเหล่านี้จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเส้นผมและผิวหนัง รวมทั้งคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสร้างสุขภาพที่ดีให้กับหนังศรีษะและเส้นผม เลือกแชมพูให้เหมาะกับเส้นผม
จุดประสงค์หลักของแชมพูคือ ต้องทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างอ่อนโยนที่สุด แค่น้ำเปล่าอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะขำระล้างสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจดส่วนใครที่กำลังมีปัญหาผมหลุดร่วง หนังศีรษะไม่เป็นปกติคงต้องเลือกเป็นพิเศษหน่อย เราขอแนะนำให้เลือกใช้แชมพูที่มีค่าความเป็นกรดหรือด่าง หรือค่า pH ที่ 5.5 เพราะเป็นระดับที่เหมาะสมกับความชุ่มชื่นของเส้นผมทั่วไปหากมีค่าความเป็นกรดหรือด่างสูงเกินไป จะทำให้เกิดช่องว่างหรือรูพรุนบนหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่าย
สมุนไพรดีที่สุด
สารสกัดที่เกิดจากสมุนไพร นอกจากจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะแล้ว ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ยังจะช่วยทำให้คุณมีความสุขกับการสระผมอีกด้วย
ปล่อยตามธรรมชาติ
หลังสระผมเสร็จ ควรเช็ดผมอย่างเบามือ เริ่มจากซับที่ปลายผมก่อนแล้วปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจากไดรเป่าผม เพราะความร้อนเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นผมหลุดร่วง
เชื่อว่าการดูแลผมให้มีสุขภาพดี คงต้องดูแลกันตั้งแต่ภายใน ทานอาหารที่มีประโยชน์ออกกำลังกาย ทำสุขภาพกายใจให้แข็งแรงรับรองเลยค่ะว่าเส้นผมสวยๆ จะอยู่กับคุณไปอีกนานแสนนาน
4 เคล็ดลับเด็ดลดไขมัน
คุณรู้จักเคล็ดลับการเผาผลาญไขมันมาแทบทุกอย่างแล้ว แต่นี่คือบางอย่างที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้เพื่อจัดการโจมตีไขมันในแบบที่ ต่างออกไป
ภาพประกอบจาก : wedding.in.th
ล้างผักเพื่อความปลอดภัย
1. ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งหรือล้างผ่านน้ำไหลนาน 2 นาที หรือแช่น้ำสะอาดนาน 15 นาที จะลดสารพิษได้ประมาณ 50-60%
5 ผลไม้ที่ช่วยล้างพิษ
http://health.kapook.com/fruit/
ผลไม้นอกจากจะมีรสชาติทีอร่อยเป็นที่ถูกปากถูกใจของหลายๆท่านแล้ว ผลไม้ยังมีคุณสมบัติพิเศษช่วยขับล้างสารพิษต่างๆที่ตกค้างในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี เรามาดูกันว่าผลไม้แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการขับสารพิษอย่างไรกันบ้าง
1. แอปเปิล เป็นผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย แอปเปิลมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่ชื่อเพกทิน ซึ่งสารนี้จะช่วยกำจัดสารพิษทั้งยังป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เกิดการบูดเน่า แอปเปิลยังมีเส้นใยมาก ซึ่งจะทำหน้าที่ทำความสะอาดลำไส้ ช่วยให้ตับและระบบย่อยทำงานได้ดี
2. แตงโม แตงโมมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นจึงช่วยฟอกล้างไตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลดความดันโลหิต และทำให้สบายท้อง
3. องุ่น เป็นสารฟอกล้างสำหรับผิวหนัง ตับ ลำไส้ และไตโดยเฉพาะ เนื่องจากองุ่นมีคุณสมบัติรักษาน้ำมูกที่ออกมาจากเยื่อเมือกต่างๆในร่างกายองุ่นยังให้พลังงานสูงและนำไปใช้ได้ง่าย อุดมด้วยเกลือแร่ ดังนั้นจึงช่วยบำรุงเลือดและซ่อมสร้างเซลล์ในร่างกาย
4. สับปะรด มีเอนไซม์โบรมีลินสูง เอนไซม์นี้ช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น เชื่อกันว่าสับปะรดช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆที่สึกหรอ ช่วยการทำงานของต่อมไร้ท่อ และช่วยกำจัดน้ำมูก
5. มะละกอและมะม่วง ทั้งสองอย่างนี้มีลักษณะคล้ายกัน ผลไม้ทั้งสองชนิดมีเอนไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับน้ำย้อยเพปซินในกระเพาะอาหาร จึงช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น ทั้งมะละกอและมะม่วงดีสำหรับทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร เชื่อกันว่ามะละกอยังช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย
5 อาหารเพิ่มความเสี่ยง โรคหัวใจ
http://health.kapook.com/heartdisease/
ในปัจจุบันสถิติผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจสูงขึ้นเป็นอันดับสองรองจากโรคมะเร็ง และยังมีแนวโน้มพบในคนอายุน้อยลงเรื่อยๆ สาเหตุของการเกิดโรคหัวใจนั้นมีด้วยกันหลายด้านซึ่งปัจจัยหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่องของอาหาร ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำอาหารที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ สำหรับผู้ที่มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
- อาหารไขมันสูงหรือเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น เนื้อหมู เนื้อวัวติดมัน เครื่องในสัตว์ ไข่ปลา หอยนางรม ไข่แดง และกะทิ
- ขนมหวาน โดยเฉพาะที่อุดมด้วย น้ำตาล กะทิ คอเลสเตอรอล ไข่แดง เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ตลอดจนขนมหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวสังขยา ลอดช่อง ปลากริมไข่เต่า เป็นต้น
- อาหารฟาสต์ฟู้ด แม้จะมีผักแต่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย แต่มากไปด้วยแป้ง ไขมัน และรสเค็ม
- อาหารรสเค็ม ไม่เหมาะกับผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว เพราะทำให้เหนื่อยหอบ ตัวบวม หลีกเลี่ยงอาหารปรุงรสเค็มจัด ลดการใช้เครื่องปรุงรสลง เช่น กะปิ น้ำปลา เกลือ เต้าเจี้ยว ซีอิ๊ว ซอส น้ำมันหอย ซุปก้อนลง และงดอาหารหมักดองอาหารกระป๋อง อาหารกึ่งสำเร็จรูป กุ้งแห้ง ปลาเค็มด้วย
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจโตจนอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ส่วนเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง ก็กระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักเพิ่มขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารทั้ง 5 ประเภท เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง
ล้างพิษใน 1 วัน ที่คุณทำเองได้
http://health.kapook.com/detox/
คงจะรู้กันมาบ้างแล้วว่าการล้างสารพิษที่หมักหมมในตัวออกไป จะทำให้ร่างกายแข็งแรง เลือดลมเดินสะดวก ถ้าทำเป็นประจำก็จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพและรักษาโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หอบหืด เบาหวาน รวมทั้งลดความอ้วนได้ด้วย
1. ขวดน้ำขนาด 1 ลิตร 2 ขวด
2. มะนาว 4 ลูก
3. เกลือป่น 2 ช้อนชา แต่ห้ามใช้เกลือไอโอดีน
1. ใส่น้ำดื่มให้เต็มขวดจากนั้นบีบมะนาวใส่ลงไปขวดละ 2 ลูก และเกลือ 1 ช้อนชา เขย่าให้เข้ากัน
กระบวนการล้างพิษจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าหากทำเป็นประจำสัก 2 อาทิตย์ ต่อหนึ่งครั้ง
การสมัครgmail
การเพิ่มบทความใหม่
สามารถแสดงตัวอย่างให้ดูก่อนการเผยแพร่บทความ โดยคลิกที่ แสดง
คลิกเผยแพร่บทความ ดังตัวอย่างภาพข้างล่าง
วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552
การศึกษา
ประถมศึกษา : โรงเรียนบ้านเหล่านกชุมวิทยาสรรค์
ความภาคภูมิใจ : ป.1 -เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันการอ่านร้อยแก้ว
ได้รับรางวัลชนะเลิศ
ป.4-เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันการตอบปัญหาวิทยาศาสตร์
ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ
ป.5-เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันการตอบปัญหาคณิตศาสตร์
ได้รับรางวัลชนะเลิศ
ความประทับใจ : วัยเด็กเริ่มที่รู้จักเข้าหาสังคม ได้รู้จักคนอื่นๆ นอกเหนือจาก
พ่อกัแม่ คนเหล่านั้นก็คือเพื่อนของฉันนั่นเอง การมีเพื่อมที่ดี
ทำให้ฉันสนุก มีความสุขทุกครั้งที่ได้มาโรงเรียน และเรายังเป็น
เป็นเพื่อนกันมาจนถึงทุกวันนี้ อีกความประทับใจหนึ่งคือคุณครู
ทุกคนใจดีมาก และดูแลเอาใจใส่ฉันเป็นอย่างดี (ให้ของขวัญ
วันเกิดฉันเกือบทุกปี)
ความภาคภูมิใจ : ม.2/7 เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันการประกวดมารยาทไทย
ม.4/8 เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันการตอบปัญหาพระพุทธศาสนา
ม.5/8 เป็น staff การแข่งกีฬาภายในโรงเรียน
ม.6/8 สอบเข้าหมาวิทยาลัยได้ตามที่ต้องการ
ความประทับใจ : มีทั้งเพื่อนที่ดี และเพื่อนที่ไม่ดี ทำให้ฉันได้เรียนรู้บทเรียนชีวิต
รู้จักเลือกในสิ่งที่ดี ทำให้ฉันเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และเพื่อนของฉันก็น่ารัก
ห่วงใยกันและกัน สุขทุกข์ด้วยกันมา จะเป็นเพื่อนที่รักและผูกพันกันตลอดไป
อุดมศึกษา : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะพยาบาลศาสตร์
http://www.nu.msu.ac.th
ความภาคภูมิใจ : สอบเข้าคณะพยาบาลได้
ความประทับใจ : วิชาที่เรียนเกี่ยวกับพยาบาล ( ยากมาก)