น้ำชา...ชูกำลัง
การนำใบชามาต้มจะทำให้ได้ตัวยาสำคัญในใบชามากขึ้น
โดยเฉพาะสารฝาด (tannins) ที่อาจทำให้ท้องผูก และอัลคาลอยด์ (alkaloids)
ที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เช่น กาเฟอีน (caffeine) เธโอโบรมีน (theobromine)
“น้ำชา”
องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำว่า ควรดื่มชาในระหว่างอาหารอย่างไรก็ตาม
ปัจจุบันเราทราบว่าการดื่มชาเขียววันละ 4-5 ถ้วย จะทำให้สุขภาพดี มีอายุยืน และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลายอย่าง เช่น โรคเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือดรวมทั้งโรคมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้ ยังมีชาสมุนไพรของไทยหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ชาหญ้าหวาน ซึ่งจะให้ความหวานกว่าน้ำตาล 300 เท่า ไม่ทำให้อ้วน เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวานและไขมันในเลือดสูง ชาชะเอม สรรพคุณรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และสำไส้ รักษาเส้นเลือดขอด บรรเทาอาการผิวหนังแตกเป็นขุย ชาเตยหอม สรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ ดับพิษไข้ ชูกำลัง แก้ร้อนในกระหายน้ำ และมีกลิ่นเตยหอมที่ทานแล้วชื่นใจ สำหรับคนรักสุขภาพ และนิยมสมุนไพรของไทยก็ลองหาซื้อมารับประทานได้ค่ะ
อ่านเพิ่ม<http://www.thaihealth.info/nutrition71.htm>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น