วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สมุนไพรไทย ใครว่าธรรมดา ภาค3

สมุนไพรไทย ใครว่าธรรมดา ภาค3

สวัสดีค่า มิตรรักนักอ่านทั้งหลาย และแล้วก็ดำเนินมาถึงภาคจบเสียทีนะคะ สำหรับสมุนไพรไทยที่ปรากฏกายอยู่ในคลิปวิดีโอของมูลนิธิสุขภาพไทย ยืดยาวมาเสียหลายตอน หลายๆท่านจะเบื่อกันซะก่อน เลยปวารณากับตัวเองว่าจะจบให้ได้ภายใน Entry นี้ค่ะ ^___^ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
ส่วนสมุนไพรชนิดสุดแรกที่จะแนะนำในวันนี้คือใบพลับพลึงค่ะ ใบพลับพลึงนั้น คนโบราณจะรู้กันดีว่าสามารถนำมารักษาอาการปวดเมื่อย กล้ามเนื้ออักเสบ คลายเส้น แก้อาการฟกช้ำปวดบวม ได้นะคะ ดังที่เห็นในคลิปวิดีโอ และยังสามารถนำไปใช้กับคุณแม่ที่เพิ่งคลอด หรืออยู่ไฟได้ โดยเอามาประคบหน้าท้อง ทำให้มดลูกเข้าที่อยู่ตัว น้ำคาวปลาแห้ง ขจัดไขมันส่วนเกิน และขับของเสียต่างๆออกจากร่างกายคุณแม่ที่เพิ่งคลอดได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง ขับเสมหะ เป็นยาระบาย ทำให้คลื่นเหียนอาเจียน รักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะและน้ำดี
ภาพประกอบจาก : siamensis.org

มากไปกว่านั้น ส่วนอื่นๆของต้นพลับพลึงยังสามารถรักษาโรคอื่นๆได้อีกเช่น เมล็ดสามารถขับเลือดประจำเดือนให้ออกมาให้หมดได้ด้วย และ รากสามารถนำมาตำแล้วพอกแผลก็ได้ด้วยค่ะ และยังมีสรรพคุณอีกมากมายนานัปการค่ะ
มาถึงสมุนไพรตัวที่ 2 ที่จะกล่าวถึงในคราวนี้นะคะ คือ กะเพรา ค่ะ กะเพราที่เรานำมาทำอาหารเนี่ยแหล่ะคะ พื้นๆเลย ก็ช่วยเรื่องขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด นอกไปจากนั้น กะเพรายังช่วยแก้ปวดท้อง และควบคุมธาตุต่างๆ ระบบการย่อยอาหาร ระบบทางเดินอาหารให้ทำงานดี และเมื่อนำมาใส่แกงเลียงก็จะช่วยคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกเรียกน้ำนมได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วยค่ะ
ภาพประกอบจาก : fm100cmu.com
ถ้าเอามาใช้รักษาโรคหรือบำรุงภายนอก ก็จะเป็นได้ทั้งยารักษากลากเกลื้อน แก้ลมพิษ แมลงสัตว์กัดต่อย โดยการรักษาที่กล่าวมาทำได้โดยการเอากะเพรามา 1 กำมือ ตำให้แหลกแล้วผสมกับเหล้าขาว แล้วทาไปยังจุดที่เป็น ถ้าเป็นหูดก็เอาใบกะเพราถูไปที่หูดโดยตรงได้เลยค่ะแล้วหูดก็จะฝ่อหายไปเองค่ะ
และใบกะเพรายังสามารถนำมาไล่แมลงได้ด้วยนะคะ โดยน้ำมันที่สกัดมาจากใบกะเพราสามารถไล่แมลงวันทอง และไล่ยุงได้ค่ะ
สมุนไพรชนิดที่ 3 ที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือ ตะไคร้ ค่ะ แน่นอนว่าตะไคร้เป็นสมุนไพรอันดับต้นๆที่นำมาประกอบอาหารรับประทานง่ายมาก ทั้งยำตะไคร้ น้ำตะไคร้ ต้มยำ ฯลฯ
ภาพประกอบจาก : fm100cmu.com
ในส่วนของลำต้นนั้นสามารถใช้เป็นยารักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะและแก้อหิวาตกโรค หรือทำเป็นยาทานวดก็ได้ และยังบำรุงธาตุให้เจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อเมื่อทานประกอบกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ
ส่วนของหัวใช้เป็นยารักษาเกลื้อน แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปัสสาวะพิการ แก้นิ่ว บำรุงไฟธาตุ ถ้าใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะเป็นยาแก้อาเจียน แก้ทราง ยานอนหลับลดความดันสูง แก้ลมอัมพาต แก้กษัยเส้น และแก้ลมใบ ใบสด ๆ จะช่วยลดความดันโลหิตสูง แก้ไข้ และอีกมากมายค่ะ ส่วนรากใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ ปวดท้องและท้องเสีย
ภาพประกอบจาก : Thaifoodtoworld.com
มากไปกว่านั้น ตะไคร้ยังมีสรรพคุณดับคาว ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่คนใต้จะต้มปลาเพื่อเอาเนื้อปลามาทำน้ำยาขนมจีน ก็มักจะต้มปลาแดงกับตะไคร้เพื่อดับกลิ่นคาวปลา หรือใส่ตะไคร้ในเครื่องแกงต่างๆเพื่อดับคาวเนื้อสัตว์ทั้งหลายที่ใส่ในแกง
และสมุนไพรชนิดสุดท้ายที่อยู่ในคลิปวิดีโอก็ได้แก่เจ้า กิ่งข่อย นั่นเองค่ะ หลายๆท่านคงทราบกันดีอยู่ว่า เจ้ากิ่งข่อยใช้ในการแปรงฟันแทนแปรงสีฟันได้(แต่ต้องทุบให้นิ่มๆก่อนนะคะ ไม่ใช่ใช้ทั้งแข็งๆ ไม่งั้นจะหาว่าสวยไม่เตือนไม่ได้นะคะ อิอิ) เปลือกสามารถรักษาแผล แก้ท้องร่วง ดับพิษภายใน และเมื่อต้มกับเกลือจะได้เป็นยาอมแก้รำมะนาด
ภาพประกอบจาก : gotoknow.org
ส่วนของรากสามารถนำมารักษาแผลได้ ตัวเนื้อไม้สามารถนำมามวนยาสูบได้ ตัวเมล็ดก็นำมารับประทานเป็นยาอายุวัฒนะได้ ทำให้เจริญอาหารด้วยค่ะ
และแล้วก็มาถึงตอนจบจนได้ อิอิ กลัวใจตัวเองจริงๆว่าจะต่อออกไปอีกหลายตอน แต่สุดท้ายก็ครบถ้วนกระบวนความตามในคลิปนะคะ ^____^ หวังว่าทุกๆท่านจะมีความสุขกับการชมคลิปโฆษณาน่ารักๆ และความรู้ที่ HealthyMania มานำเสนอนะคะ ยังไงก็ติชมกันเข้ามาได้นะคะ และถ้าข้อมูลตกหล่นตรงไหน ก็สามารถเขียน comment เข้ามาคุยกันได้นะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น